Page 68 - 60 ปี สศค
P. 68

การคลัังแลัะภาษีี


                 ภาคเอกชื้นเพิ�มข้�น และอาจส่งผลกระทบติ่อการลงทุนของภาคเอกชื้น  เพ้�อห้าจุด Trigger Point ของระดับห้นี�สาธารณ์ะซึ่้�งพบว่าอย้่ที�ร้อยละ 85
                 (Crowding-out Effect) นอกจากนี� การก้้เงินจากติ่างป็ระเทศของรัฐบาล  ติ่อ GDP และ Butkus and Seputiene (2018) ได้ใชื้้กลุ่มติัวอย่างจาก
                 อาจชื้่วยลดผลกระทบ Crowding-out Effect ได้ในระดับห้น้�ง แติ่อาจ  152 ป็ระเทศ โดยแบ่งกลุ่มป็ระเทศออกเป็็น 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่ม
                 เป็็นป็ัจจัยที�ทำให้้การนำเข้าสินค้าและบริการจากติ่างป็ระเทศส้งข้�น และ  ป็ระเทศที�รัฐบาลมีป็ระสิทธิภาพอย้่ในระดับส้ง และขาดดุลการค้าติ�ำ
                 นำไป็ส้่การขาดดุลบัญชื้ีเดินสะพัด ซึ่้�งจะส่งผลให้้อัติราการขยายติัวทาง  (2) กลุ่มป็ระเทศที�รัฐบาลมีป็ระสิทธิภาพอย้่ในระดับติ�ำ และขาดดุลการค้า
                 เศรษฐกิจลดลงได้เชื้่นกัน                                  ติ�ำ (3) กลุ่มป็ระเทศที�รัฐบาลมีป็ระสิทธิภาพอย้่ในระดับส้ง และขาดดุล
                     ดังนั�น หากระดับหนึ่่�สาธารณ์ะเพื่ิ�มส่งข่�นึ่เกินึ่ระดับ (d) ตามภาพื่ท้่� 1  การค้าส้ง และ (4) กลุ่มป็ระเทศที�รัฐบาลมีป็ระสิทธิภาพอย้่ในระดับติ�ำ
                 ส�วนึ่ต�างระหว�างอัตราดอกเบ่�ยกับอัตราการขยายตัวท้างเศรษฐกิจัอาจั  และขาดดุลการค้าส้ง โดยพบจุด Trigger Point ของระดับห้นี�สาธารณ์ะ

                 เพื่ิ�มส่งข่�นึ่อย�างก้าวกระโดดจันึ่รัฐบาลัไม�สามารถุบริหารจััดการระดับ  อย้่ที�ร้อยละ 200 111 75 และ 15 ติ่อ GDP ติามลำดับของ 4 กลุ่ม
                 หนึ่่�สาธารณ์ะให้ลัดลังได้อ่กต�อไป มุมมองด้านผลกระทบที�มีติ่อการ  ป็ระเทศข้างติ้น แสดงให้้เห้็นว่า เพดานห้นี�สาธารณ์ะของป็ระเทศที�รัฐบาล
                 ขยายติัวทางเศรษฐกิจจ้งเป็็นอีกมุมมองห้น้�งที�สำคัญ และจำเป็็นติ้อง  มีป็ระสิทธิภาพในการบริห้ารป็ระเทศส้ง ห้ร้อเกินดุลการค้า (ห้ร้อขาดดุล
                 คำน้งถ้งป็ระกอบการดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายติัวด้วย      การค้าในระดับติ�ำ) จะอย้่ในระดับส้งกว่าป็ระเทศที�รัฐบาลขาดป็ระสิทธิภาพ
                     ทั�งนี� มีงานวิจัยเชื้ิงป็ระจักษ์ห้ลายฉบับที�ได้ศ้กษาวิเคราะห้์ห้า  ในการบริห้ารป็ระเทศ ห้ร้อมีการขาดดุลการค้าในระดับส้ง
                 จุดห้ักเป็ลี�ยน (Trigger Point) ของระดับห้นี�สาธารณ์ะที�จะส่งผลลบติ่อ  แม้ว่าระดับเพดานห้นี�สาธารณ์ะที�เห้มาะสมในกรณ์ีของป็ระเทศไทย
                 การขยายติัวทางเศรษฐกิจดังกล่าว อาทิ Reinhart and Rogoff (2010)  จากมุมมองด้านผลกระทบติ่อการขยายติัวทางเศรษฐกิจข้างติ้นจำเป็็น

                 ใชื้้กลุ่มติัวอย่างจาก 44 ป็ระเทศ (ป็ระเทศพัฒนาแล้ว 20 ป็ระเทศ และ  ติ้องมีการศ้กษาวิเคราะห้์เชื้ิงล้กผ่านเคร้�องม้อทางเศรษฐมิติิเพิ�มเติิม
                 ป็ระเทศเกิดให้ม่  24 ป็ระเทศ) โดยพบว่า Trigger Point ของระดับห้นี�  แติ่ห้ากพิจารณ์าในเบ้�องติ้นจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจและติลาดการเงิน
                 สาธารณ์ะอย้่ที�ร้อยละ 90 ติ่อ GDP นอกจากนี� ในกรณ์ีของป็ระเทศ  ของป็ระเทศไทยในป็ัจจุบันซึ่้�งมีสัดส่วนห้นี�ติ่างป็ระเทศอย้่ในระดับติ�ำ
                 เศรษฐกิจเกิดให้ม่ (Emerging Economies) ระดับห้นี�สาธารณ์ะที�เป็็นห้นี�  ที�เพียงร้อยละ 1.86 ของห้นี�สาธารณ์ะทั�งห้มด (ณ์ สิ�นเด้อนเมษายน
                 ติ่างป็ระเทศที�ร้อยละ 60 ติ่อ GDP จะเป็็น Trigger Point ที�ส่งผลลบติ่อ  2564) และเกินดุลบัญชื้ีเดินสะพัดติ่อเน้�อง ระดับเพดานห้นี�สาธารณ์ะ
                 การขยายติัวทางเศรษฐกิจและส่งผลให้้อัติราเงินเฟื้้อเพิ�มส้งข้�นอย่าง  ที�อ้างอิงจากผลการวิจัยในติ่างป็ระเทศข้างติ้นถ้อว่ายังอย้่ส้งกว่าระดับ
                 ก้าวกระโดด Caner, et al. (2010) ใชื้้กลุ่มติัวอย่างจาก 101 ป็ระเทศ  ห้นี�สาธารณ์ะของป็ระเทศไทยในป็ัจจุบัน สะท้อนให้้เห้็นว่า ประเท้ศไท้ย
                 (ป็ระเทศกำลังพัฒนา 75 ป็ระเทศ และป็ระเทศพัฒนาแล้ว 26 ป็ระเทศ)   ยังสามารถุดำเนึ่ินึ่นึ่โยบายท้างการคลัังแบบขยายตัวได้เพื่ื�อแก้ไขแลัะ
                 โดยพบจุด Trigger Point ของระดับห้นี�สาธารณ์ะที�ร้อยละ 77 ติ่อ GDP   เย่ยวยาผลักระท้บจัากการระบาดของโรค COVID-19 เพื่ิ�มเติม โดยไม�ส�ง
                 โดยในกรณ์ีของป็ระเทศกำลังพัฒนามี Trigger Point อย้่ที�ร้อยละ 64  ผลักระท้บเชิงลับต�อการขยายตัวท้างเศรษฐกิจัในึ่ระยะยาว

                 Cecchetti, et al. (2011) ใชื้้กลุ่มติัวอย่างจากป็ระเทศพัฒนาแล้ว 18 ป็ระเทศ



                    5.  ระบบสััญญาณเตัือนภัยทางการคลัังลั่วงหน้า

                     ระบบสัญญาณ์เติ้อนภัยทางการคลังล่วงห้น้า (Fiscal Early Warning System: FEWS) เป็็นเคร้�องม้อห้น้�งที�ใชื้้ในการวิเคราะห้์ความเสี�ยงของ
                                  3
                 การเกิดวิกฤติการคลัง  ผ่านการติิดติามและวิเคราะห้์ข้อม้ลที�เป็็นติัวบ่งชื้ี�วิกฤติการคลังล่วงห้น้า (ติัวบ่งชื้ี�ฯ) โดยใชื้้ข้อม้ลสถิติิในอดีติ ซึ่้�งสำนักงาน
                 เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้มีการพัฒนาเคร้�องม้อดังกล่าวข้�น โดยมีติัวบ่งชื้ี�ที�ครอบคลุมทั�งภาคเศรษฐกิจจริง ภาครัฐ ภาคป็ัจจัยภายนอก (เศรษฐกิจ
                                                             4
                 ระห้ว่างป็ระเทศ) และภาคการเงิน รวมทั�งสิ�น 15 ติัวชื้ี�วัด  และนำมาป็ระมวลผลผ่านแบบจำลอง Signaling Approach เพ้�อคำนวณ์เป็็นดัชื้นีรวม
                 เติ้อนภัยทางการคลัง (ดัชื้นีรวมฯ)

                     3  นิยามวิกฤติการคลังอ้างอิงจาก Baldacci et al. (2011) ป็ระกอบด้วย 4 เห้ติุการณ์์ ได้แก่ (1) รัฐบาลผิดชื้ำระห้นี� (2) มีการขอรับความชื้่วยเห้ล้อทางการเงินจาก IMF เกิน
                 โควติา (3) อัติราเงินเฟื้้อที�เพิ�มข้�นในระดับรุนแรง และ (4) อัติราผลติอบแทนพันธบัติรรัฐบาลเพิ�มข้�นในระดับรุนแรง โดยป็ระเทศไทยมีการขอรับความชื้่วยเห้ล้อทางการเงินจาก IMF
                 เกินโควติาในป็ี 2524 2525 2528 และ 2540




      66     60 ปี วิวัฒน์การเงินการคลังไทย สู่ก้าวต่อไปเพื่อเศรษฐกิจสมดุล
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73